จ.บึงกาฬ ผู้ปกครองนักเรียนต่างเดินทางมารับเงินเยียวยา 2,000 บาท

ที่ ร.ร.อนุบาลบึงกาฬวิศิษฐ์อำนวยศิลป์ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ผู้ปกครองของนักเรียนต่างเดินทางมารับเงินเยียวยา 2,000 บาท หลังกระทรวงศึกษาธิการได้โอนเงินเยียวยาช่วยเหลือนักเรียน เพื่อบรรเทาผลกระทบของผู้ปกครองและนักเรียนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยขณะนี้ ยังไม่มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการหักค่าใช้จ่ายของโรงเรียน และผู้ปกครองทุกคนจะได้รับเงินเต็มจำนวน

นายอุบล ไชยดี ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลบึงกาฬวิศิษฐ์อำนวยศิลป์ กล่าวว่า หลังจาก ร.ร.ได้รับการโอนเงินเยียวยาช่วยเหลือนักเรียน จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งได้รับจากกระทรวงศึกษาธิการแล้ว รายละ 2,000 บาทต่อนักเรียน 1 คนนั้น ขณะนี้ทาง ร.ร.ได้มีการแจ้งให้ผู้ปกครองมารับเงินตามระยะเวลาที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด สำหรับในปีการศึกษานี้ นักเรียนของร.ร.อนุบาลบึงกาฬวิศิษฐ์อำนวยศิลป์มีทั้งหมด 1,220 คน จึงได้รับการจัดสรรงบประมาณกว่า 2.44 ล้านบาท โดยร.ร.ได้แบ่งนักเรียนเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่นักเรียนมีภูมิลำเนาในเขตเทศบาลเมือง (รับไปเมื่อวันที่ 8 ก.ย.) ประกอบด้วย ต.บึงกาฬ และต.วิศิษฐ์ และ2. กลุ่มของนักเรียนที่มีภูมิลำเนานอกเขตเทศบาลเมือง ซึ่งมีอยู่ประมาณกว่า 20 ตำบล (จ่ายวันนี้) ส่วนทั้ง 2 กลุ่มที่ไม่สะดวกมารับเงิน ถ้ายังไม่ได้มารับ ทาง ร.ร.ก็จะพยายามติดต่อให้มารับเงินสด 2,000 บาทที่โรงเรียนให้ได้ ส่วนการรับเงินนั้น ทางโรงเรียนจะมีการแบ่งจุดที่ชัดเจนว่า นักเรียนชั้นไหนรับจุดไหน เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และเป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19

โดยผู้อำนวยการโรงเรียนฯ กล่าวย้ำว่า ผู้ปกครองจะได้รับเงิน 2,000 บาทเต็มจำนวนอย่างแน่นอน และโรงเรียนจะไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ขอให้ผู้ปกครองสบายใจ

ขณะที่ผู้ปกครองของนักเรียนที่เดินทางมารับเงินเยียวยาในวันนี้ กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ถือเป็นโครงการที่มีประโยชน์ เพราะช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวได้มาก โดยเงินจำนวนนี้ ผู้ปกครองให้ข้อมูลว่า จะนำเงินไปสนับสนุนด้านการเรียนออนไลน์ให้กับบุตรหลาน รวมถึงไปจ่ายเป็นค่าเรียนพิเศษให้กับบุตรหลานด้วย ซึ่งผู้ปกครองบางส่วนมองว่า อยากให้ภาครัฐเปิดโรงเรียนให้นักเรียนได้เรียนแบบ On Site เพราะเป็นห่วงการเรียนของบุตรหลานว่าจะได้ความรู้ไม่เต็มที่ ขณะที่ผู้ปกครองบางส่วนมองว่า ถ้าหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ก็ยังไม่อยากให้มีการเปิดเรียนแบบ On Site อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองทุกคนต่างพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ เพื่อให้บุตรหลานได้รับความรู้และมีความปลอดภัยมากที่สุด ภายใต้สถานการณ์ขณะนี้