LINE :
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ แถลง 3 คลัสเตอร์สำคัญที่ต้องปิดหมู่บ้าน ย้ำ หากต้องการเปิดเมือง ประชาชนต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อย 70%
ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ นายแพทย์ภมร ดรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ แถลงสถานการณ์โควิด-19 ของจังหวัดบึงกาฬ ว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยสะสม 1,970 ราย รักษาหาย 1,824 ราย และเหลือผู้ป่วยที่กำลังรักษา 132 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 14 ราย โดยสถานการณ์ในเดือนตุลาคม พบการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อน 3 คลัสเตอร์สำคัญ ได้แก่
1.คลัสเตอร์งานศพ ที่บ้านหนองนาแซง ตำบลวิศิษฐ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ แรกเริ่มเกิดจากผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากสมุทรปราการเข้าร่วมงานศพ มีผู้ติดเชื้อขณะนี้ 42 ราย มาตรการได้มีการปิดหมู่บ้าน และตรวจคัดกรองเชิงรุกทั้งหมู่บ้าน มีองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ส่งข้าวส่งน้ำในปลายเดือนนี้ คาดว่าจะสถานการณ์จะคลี่คลาย และสามารถเปิดหมู่บ้านได้
2.คลัสเตอร์บ้านสายปัญญา ตำบลเซกา อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ แรกเริ่มเกิดจากบุคคลในพื้นที่ประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้าง เดินทางไปมาระหว่างบึงกาฬ-ปราจีนบุรี-ชลบุรี แต่ไม่ได้กักตัว และใช้ชีวิตปกติ พบผู้ติดเชื้อขณะนี้แล้ว 53 ราย (วานนี้ พบผู้ติดเชื้อ 26 ราย) มาตรการขณะนี้ได้มีการปิดหมู่บ้าน ตรวจคัดกรองเชิงรุก และกักตัวผู้มีความเสี่ยงทุกคน องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ส่งข้าวส่งน้ำ มีผู้มีความเสี่ยงสูงค่อนข้างมาก ประมาณ 800 ราย คาดว่าจะสถานการณ์จะคลี่คลาย และสามารถเปิดหมู่บ้านได้ในปลายเดือนตุลาคมนี้
3.คลัสเตอร์บ้านโพธิ์น้อย ตำบลท่ากกแดง อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ แรกเริ่มเกิดจาก 2 พ่อลูกมีอาการไข้หวัด แต่รักษาไม่หาย จึงเข้าพบแพทย์ ผลการตรวจหาเชื้อจึงพบติดเชื้อโควิด-19 ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุการติดเชื้อ เนื่องจากการสอบสวนโรคทั้ง 2 รายไม่มีประวัติเดินทางออกนอกพื้นที่ ปัจจุบันคลัสเตอร์นี้มีผู้ติดเชื้อ 31 ราย เป็นญาติ และบุคคลในหมู่บ้าน คาดว่าจะสถานการณ์จะคลี่คลาย และสามารถเปิดหมู่บ้านได้ในต้นเดือนพฤศจิกายนนี้
สำหรับชุดตรวจ ATK นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ ให้ข้อมูลว่า จังหวัดบึงกาฬได้รับการสนับสนุนจาก สปสช. ขณะนี้ 41,000 ชุด จึงได้มีการกระจายให้ทุกพื้นที่ใช้ตรวจผู้มีความเสี่ยงทุกราย และยังคงมีความเพียงพอ ในขณะที่การฉีดวัคซีนประชากรภาพรวมยังถือว่าน้อยเพราะอยู่ที่ 34% เท่านั้น ในจำนวนนี้แบ่งเป็นกลุ่ม 608 และกลุ่มประชาชน 18-59 ปี โดยกลุ่ม 608 ภาพรวมทั้งจังหวัดผลตอบรับค่อนข้างดี เพราะฉีดได้ครอบคลุมถึง 62% ขณะที่กลุ่มอายุ 18-59 ปี ฉีดไปเพียงประมาณ 20% เท่านั้น
ส่วนการฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กอายุระหว่าง 12-17 ปี มีความครอบคลุมแล้วกว่า 60% ส่วนอีก 40% รอวัคซีนไฟเซอร์ที่จะได้รับการจัดสรรในรอบต่อไปในเดือนพฤศจิกายน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ กล่าวต่อไปว่า ทุกโรงเรียน ตามมาตรการ COVID-Free Setting ต้องทำตามแนวทางของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด บุคลากรทางการศึกษาต้องได้รับวัคซีน 100% ซึ่งจากข้อมูลขณะนี้ บุคลากรทางการศึกษาได้รับวัคซีนครอบคลุมประมาณ 60% ส่วนที่เหลือต้องได้รับวัคซีนให้ได้ภายใน 31 ตุลาคมนี้ เพื่อให้โรงเรียนสามารถเปิดภาคเรียนแบบ On-site ได้ ซึ่งหากโรงเรียนใดมีความพร้อมก็สามารถเปิดได้
นายแพทย์ภมร ดรุณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ กล่าวเน้นย้ำว่า จะเห็นว่าสถานการณ์มีแนวโน้มผู้ป่วยลดลง แม้จะเกิดคลัสเตอร์บ้าง อัตราผู้ป่วยถือว่าต่ำ เมื่อเทียบกับระดับประเทศ แต่สิ่งที่อยากรณรงค์ คือ การรับวัคซีนโควิด-19 เพราะการครอบคลุมขณะนี้ค่อนข้างต่ำ จึงขอเชิญชวนชาวบึงกาฬสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ที่ทุก รพ.สต. ทุกรพ. ตลอดเวลา ซึ่งวัคซีนมีความเพียงพอ สิ่งสำคัญที่ต้องการให้ทุกท่านได้รับวัคซีนก็คือ เราจะสามารถเปิดเมืองกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ส่วนกลางแจ้งว่า จังหวัดที่จะเปิดการท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และทำการค้าขายได้อย่างสะดวกนั้น จังหวัดแห่งนั้นต้องมีผู้ได้รับวัคซีน 70% ขึ้นไป จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนทุกคนที่จะช่วยกันเปิดเศรษฐกิจของเรา เข้ารับวัคซีนให้มากที่สุด
‘>
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " สสจ.บึงกาฬแถลง 3 คลัสเตอร์สำคัญที่ต้องปิดหมู่บ้าน ย้ำ หากต้องการเปิดเมือง ประชาชนต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อย 70% "