
หากพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตติดเทรนด์ในเวลานี้ ต้องมีชื่อของ “ถ้ำนาคา” ขึ้นอันดับหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวสายมูเตลู เพราะเชื่อกันว่าเมื่อเดินทางไปกราบไว้ขอพรแล้วจะทำให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรืองด้านการเงินและหน้าที่การงาน เป็นเหตุให้มีทั้งคนธรรมดาไปจนถึงเหล่าดาราคนดังที่เชื่อในเรื่องสายมูเดินทางมาอย่างไม่ขาดสาย สำหรับใครที่วางแผนจะไปตามรอยถ้ำนาคา ควรรู้อะไรบ้างก่อนเดินทาง ไทยรัฐออนไลน์รวบรวมมาให้แล้ว
ก่อนที่จะไปขอพรควรรู้ประวัติเบื้องต้นซึ่งเป็นที่มาของความมูเตลูเสียหน่อย โดย “ถ้ำนาคา” เป็นถ้ำที่ถูกค้นพบใหม่ ภายในอุทยานแห่งชาติภูลังกา อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งมีความสวยงามโดดเด่นจากความมหัศจรรย์และซับซ้อนของธรรมชาติที่ทำให้หินบริเวณถ้ำนาคามีลักษณะคล้ายเกล็ดงู ในทางวิทยาศาสตร์ด้านธรณีวิทยาเรียกว่า “ซันแครก” (Sun Crack) ที่เกิดจากการแตกผิวหน้าของหิน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่แตกต่างกัน ระหว่างกลางวันและกลางคืนอย่างรวดเร็ว ทำให้หินเกิดการขยายตัวและหดตัวสลับไปมา จนแตกเป็นลายเหลี่ยม ต่อมามีการผุผังและกัดเซาะโดยน้ำและอากาศในแนวดิ่ง ทำให้เกิดลักษณะเป็นชั้นๆ และด้วยลวดลายที่โดดเด่นคล้ายกับพญานาคนี้จึงเป็นที่มาของเรื่องเล่าและความเชื่อที่ส่งต่อกันมาของถ้ำนาคา
ตามความเชื่อแต่โบราณมีตำนานเล่าว่า “เจ้าปู่อือลือราชา” เป็นราชาผู้ถูกสาปให้เป็นพญานาคเฝ้าถ้ำแห่งนี้ชั่วนิจนิรันดร์ เพราะเป็นต้นเหตุของรักไม่สมหวังระหว่างพญานาคกับมนุษย์ ทำให้เมืองที่เจริญรุ่งเรืองล่มสลายกลายเป็นบึงโขงหลง องค์อือลือจะพ้นคำสาปก็ต่อเมื่อบังเกิดเมืองขึ้นใหม่ ซึ่งในอดีตพื้นที่นี้ขึ้นกับจังหวัดหนองคาย แต่ปัจจุบันอยู่ในเขตพื้นที่ของจังหวัดใหม่คือบึงกาฬ
ทั้งนี้ตำนานและความเชื่อที่เป็นเรื่องเล่าของถ้ำนาคามีทั้งหมด 7 เรื่องด้วยกัน คือ ตำนานพญานาคที่ถูกสาปเป็นหิน, “เมืองหลวงของชาวบังบด” หรือเมืองลับแล, ตำนานดินแดนแห่งเมืองพญานาคราช หรือเมืองบาดาล, ตำนานดินแดนประสูติของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์, ตำนานดินแดนสนามรบกิเลส หรือพระธุดงค์กรรมฐาน, ตำนานดินแดนอาถรรพณ์ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และ “ดินแดนสมุนไพร” ตำนานรามเกียรติ์ ตอนพระลักษณ์ต้องหอกโมกขศักดิ์
ด้วยกระแสความนิยมของถ้ำนาคาจึงทำให้ต้องการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวไม่เกิน 350 คนต่อวัน ดังนั้นก่อนเดินทางจึงต้องมีการลงทะเบียนเพื่อจองคิวผ่านแอปพลิเคชันคิวคิว ล่วงหน้าไม่เกิน 15 วัน ส่วนการเดินทางสามารถทำได้ 3 วิธี คือ
ไม่ว่าจะขึ้นเครื่องบินหรือมาด้วยรถทัวร์ก็ต้องทำการเช่ารถเพื่อเดินทางมายังอุทยานแห่งชาติภูลังกา ซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุม 2 จังหวัด คือ จังหวัดนครพนม และจังหวัดบึงกาฬ โดยถ้ำนาคา อยู่ที่ตำบลโพธิ์หมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ แนะนำว่าควรปักหมุดมาที่ “น้ำตกตาดวิมานทิพย์” ได้เลย โดยแต่ละกลุ่มจะมีการเปิดให้ขึ้นห่างกัน 30 นาที ตามมาตรการเว้นระยะห่าง
ส่วนการเดินทางขึ้นไปยังถ้ำนาคานั้น จะขึ้นได้ทางเดียวคือ บริเวณ “สำนักสงฆ์ฐิติสาราราม” (วัดตาดวิมานทิพย์) เส้นทางน้ำตกตาดวิมานทิพย์ จุดนี้ระหว่างทางจะพบประตูเต่า หินหัวเรือ หัวนาคาหัวที่ 3 และเมื่อขึ้นถึงบนเขาจะมีทางไปพบหัวนาคาหัวที่ 1 ซึ่งเส้นทางเดินนั้น จะเป็นทางเดินป่าขึ้นเขา 2 กิโลเมตร เป็นทางดินสลับกับบันได และมีบางช่วงจะต้องดึงเชือก เส้นทางเดินป่าชัดเจนมีป้ายบอกทาง และมีเจ้าหน้าที่ประจำจุดต่างๆ เพื่อแนะนำและรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
ซึ่งการเที่ยวชมถ้ำนาคาจะใช้เวลาเดินไปกลับทั้งหมดประมาณ 4-5 ชั่วโมง จึงควรเดินขึ้นในช่วงเช้า ตั้งแต่เวลา 7.00-12.00 น. เพื่อให้มีเวลาเที่ยวชมได้หลายจุด ซึ่งทางอุทยานฯ กำหนดให้ลงจากเขาถึงพื้นล่าง ก่อนเวลา 17.00 น. โดยไม่อนุญาตให้ทำการค้างคืน หรือกางเต็นท์บริเวณถ้ำนาคาโดยเด็ดขาด
เมื่อวางแผนการเดินทางเรียบร้อย ข้อควรรู้ที่สำคัญก่อนขึ้นถ้ำนาคาก็คือการเตรียมตัว เตรียมใจและร่างกายให้พร้อม เนื่องจากเป็นเส้นทางเดินที่มีความลาดชัน และระยะทางค่อนข้างไกล โดยมีข้อแนะนำดังนี้
นอกจากข้อควรรู้ทั้งหมดข้างต้นแล้ว ทางอุทยานแห่งชาติภูลังกาได้มีข้อกำหนดที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดทั้งหมด 16 ข้อดังต่อไปนี้
ทั้งหมดนี้คือ 5 ข้อหลักที่นักท่องเที่ยวสายมูเตลูควรรู้และเตรียมตัวก่อนไปเที่ยวถ้ำนาคา เมื่อจดลิสต์ไว้เรียบร้อยแล้วก็เตรียมวางแผนเดินทางไปขอพรกันได้เลย
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
‘>
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " 5 ข้อที่ควรรู้ก่อนเที่ยวสายมูที่ถ้ำนาคา "